การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วย CADDi Drawer
อุตสาหกรรมการผลิตยังคงเป็นเสาหลักที่สำคัญของเศรษฐกิจโลก มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจและแรงงานของสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม ภาคการผลิตกำลังเผชิญกับความท้าทายมากมาย เช่น การดำเนินงานที่เป็นแบบแยกส่วน (siloed operations) การขาดแคลนแรงงานรุ่นใหม่ และความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นของซัพพลายเชนระดับโลก ด้วยปัญหาเหล่านี้ที่เป็นประเด็นหลัก กลุ่มผู้ผลิตจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรและลดต้นทุนให้ได้มากที่สุดในทุกส่วนขององค์กร — และนี่คือจุดเริ่มต้นของ CADDi
ตามรายงานของสำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐฯ (U.S. Census Bureau) ระบุว่าพนักงานในอุตสาหกรรมการผลิตโลหะและโลหะประกอบกว่าครึ่งมีอายุมากกว่า 45 ปี โดยเกือบ 7% มีอายุมากกว่า 65 ปี เมื่อพวกเขาเกษียณอายุ ความรู้และประสบการณ์ที่สะสมมายาวนานก็หายไปจากองค์กรด้วย ทำให้เกิดช่องว่างที่บริษัทต้องจัดการแก้ไข นอกจากนี้อัตราส่วนสินค้าคงคลังต่อยอดขายยังคงอยู่ในระดับเดียวกับช่วงวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2008-2009 ซึ่งเลวร้ายที่สุดในช่วงที่โควิด-19 ทำให้นักวิชาการเชิงเศรษฐศาสตร์และกลุ่มผู้ผลิตกังวลว่าเศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง
ด้วยปัญหาเหล่านี้ กลุ่มผู้ผลิตจึงจำเป็นต้องหาวิธีลดการใช้ทรัพยากรและลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ CADDi ได้เข้ามาเป็นโซลูชันที่พลิกโฉมอุตสาหกรรมการผลิต โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อแปลงเอกสารกระดาษให้เป็นเอกสารที่สามารถเข้าถึงได้ทั่วทั้งองค์กร ช่วยปรับกระบวนการให้คล่องตัว เสริมสร้างความร่วมมือ และลดค่าใช้จ่าย
เอกสารฉบับนี้จะสำรวจผลกระทบของ CADDi ต่อระบบนิเวศของอุตสาหกรรมการผลิต โดยเน้นถึงศักยภาพในการปรับปรุงกระบวนการให้ทันสมัยและเพิ่มประสิทธิภาพในทุกส่วนขององค์กร CADDi ช่วยให้ผู้ใช้งานปัจจุบันประหยัดต้นทุนการดำเนินงานต่อปีได้ถึง 3-20% ซึ่งส่งผลกระทบในเชิงบวกต่อผลกำไรโดยรวม