ปี 2568 นับเป็นหมุดหมายสำคัญที่ภาคการผลิตไทยต้องเร่งปรับตัวสู่ดิจิทัลอย่างจริงจัง เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลก แม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะเผชิญความท้าทายจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอก เช่น การหดตัวของคำสั่งซื้อใหม่และอุปสงค์จากต่างประเทศ แต่ความเชื่อมั่นทางธุรกิจโดยรวมยังคงแข็งแกร่ง สะท้อนความหวังในการฟื้นตัวและเติบโตผ่านการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และการพัฒนาธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายในห่วงโซ่อุปทานและการขาดแคลนแรงงานยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ ทำให้แม้การส่งออกจะเติบโตได้ดี แต่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมกลับไม่สามารถตอบสนองได้เต็มศักยภาพ สถานการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการนำเทคโนโลยีและข้อมูลมาขับเคลื่อนการตัดสินใจ (data-driven decision-making) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Smart Procurement หรือการจัดซื้ออัจฉริยะ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการยกระดับประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับ Smart Manufacturing หรือการผลิตอัจฉริยะ CADDi ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันเทคโนโลยี มุ่งมั่นที่จะ “ปลดปล่อยศักยภาพของอุตสาหกรรมการผลิต” ผ่านแพลตฟอร์มข้อมูลและ AI เพื่อช่วยให้ผู้ผลิตไทยก้าวข้ามความท้าทายเหล่านี้
Smart Manufacturing & Smart Procurement คืออะไร?
Smart Manufacturing (การผลิตอัจฉริยะ)
คือการผสานเทคโนโลยีอย่าง AI, IoT, Cloud Computing และ Big Data เข้ากับกระบวนการผลิต เพื่อสร้างระบบที่เชื่อมโยง ชาญฉลาด และพร้อมปรับตัว เป้าหมายหลักคือการเพิ่มคุณภาพ ลดของเสีย ปรับปรุงการวางแผน และตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างแม่นยำ เทคโนโลยี IoT ช่วยรวบรวมข้อมูลแบบเรียลไทม์จากทุกส่วนของโรงงาน ขณะที่ AI และ Big Data Analytics เปลี่ยนข้อมูลเหล่านั้นให้เป็นข้อมูลเชิงลึกเพื่อการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ
Smart Procurement (การจัดซื้ออัจฉริยะ)
คือการใช้ข้อมูลและ AI เพื่อวิเคราะห์ต้นทุน ประเมินความเหมาะสมของซัพพลายเออร์ และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดซื้อในระดับลึก องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ การแสดงผลข้อมูล (Data Visualization) การเพิ่มประสิทธิภาพซัพพลายเออร์ (Supplier Optimization) การแปลงแบบวิศวกรรมดิจิทัล (Digital Drawing Conversion) และการเสนอราคาแบบเรียลไทม์ (Real-time Quotation) เป้าหมายคือการลดต้นทุน ลดระยะเวลาจัดหา เพิ่มความแม่นยำและความโปร่งใส ซึ่งจะช่วยปลดปล่อยเวลาของวิศวกรจากงานจัดซื้อที่ซับซ้อน ให้พวกเขาสามารถมุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมได้มากขึ้น การจัดซื้ออัจฉริยะจึงไม่ใช่แค่การลดต้นทุน แต่เป็นการสร้างคุณค่าเชิงกลยุทธ์ให้กับองค์กร
แนวโน้มเทคโนโลยี Smart Manufacturing & Procurement ปี 2568
1. AI และ Machine Learning ในการจัดซื้อจัดจ้างอัจฉริยะ
AI กำลังเปลี่ยนโฉมการจัดซื้อจากการทำงานแบบเดิมๆ สู่บทบาทเชิงกลยุทธ์ เทคโนโลยี AI สามารถคาดการณ์ต้นทุนได้อย่างแม่นยำ ช่วยเลือกซัพพลายเออร์ที่เหมาะสมที่สุดโดยพิจารณาจากปัจจัยรอบด้าน ไม่ใช่แค่ราคาถูกที่สุด นอกจากนี้ AI ยังสามารถสร้างใบเสนอราคาอัตโนมัติ (Auto RFQ) จากแบบวาดทางวิศวกรรม CAD ซึ่งช่วยลดระยะเวลาและข้อผิดพลาดได้อย่างมาก ทำให้การเจรจาต่อรองรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยข้อมูลเชิงลึก
2. การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล: จากแบบวาดกระดาษสู่ Smart Manufacturing Drawing
แบบวาดทางวิศวกรรมคือหัวใจสำคัญของการผลิต แต่แบบกระดาษหรือไฟล์ดิจิทัลแบบเดิมๆ มักมีข้อจำกัดและเสี่ยงต่อความผิดพลาด การแปลงแบบเหล่านี้ให้เป็น Smart Manufacturing Drawing หรือข้อมูลดิจิทัลอัจฉริยะ คือกุญแจสำคัญในการปลดล็อกประสิทธิภาพ เทคโนโลยี AI สามารถ “อ่าน” และดึงข้อมูลจำเพาะที่สำคัญจากแบบวิศวกรรมทั้ง 2D และ 3D ได้โดยอัตโนมัติ ช่วยลดข้อผิดพลาดจากการอ่านแบบด้วยตนเอง และเพิ่มความเร็วในการประเมินแบบเพื่อเตรียมใบเสนอราคา โซลูชันอย่าง CADDi Drawer และ CADDi Quote คือตัวอย่างของการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้จริง ช่วยให้ผู้ผลิตจัดการคลังแบบวาดทางวิศวกรรมจำนวนมหาศาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเปลี่ยนให้เป็นทรัพย์สินที่สามารถนำไปวิเคราะห์และใช้ประโยชน์ต่อได้
3. การเลือกซัพพลายเออร์ตามประสิทธิภาพและการบริหารจัดการเชิงรุก
การเลือกซัพพลายเออร์โดยพิจารณาจากต้นทุนเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพออีกต่อไปในยุคที่ห่วงโซ่อุปทานมีความผันผวน ระบบอัจฉริยะจะรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลผลการดำเนินงานของซัพพลายเออร์อย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านระยะเวลาการส่งมอบ คุณภาพ และการปฏิบัติตามข้อตกลง AI สามารถช่วยจัดลำดับและจับคู่ซัพพลายเออร์ให้เหมาะสมกับประเภทงานและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน สร้างความโปร่งใส ลดความเสี่ยง และลดภาระงานของวิศวกรในการค้นหาและจัดการซัพพลายเออร์
ข้อมูลเชิงสถิติที่น่าสนใจ
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบอัจฉริยะในภาคการผลิตและการจัดซื้อทั่วโลก ข้อมูลเชิงสถิติต่อไปนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตและการยอมรับเทคโนโลยีเหล่านี้อย่างกว้างขวาง
ตลาด Smart Manufacturing ทั่วโลก
มูลค่าตลาด Smart Manufacturing ทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตจาก 254.7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022 เป็น 386.4 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 และคาดว่าจะทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2032 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 14.9% (อ้างอิงข้อมูลจาก scoop.market.us)
การใช้ Industrial IoT (IIoT) และ Edge Computing
ในปี 2025 อุปกรณ์ IoT จะถูกฝังอยู่ในทุกส่วนของกระบวนการผลิต เช่น เครื่องจักร เครื่องมือ สินค้าคงคลัง และแม้แต่ในอุปกรณ์สวมใส่ของพนักงาน เพื่อรวบรวมข้อมูลแบบเรียลไทม์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน (อ้างอิงข้อมูลจาก riministreet.com)
การเปลี่ยนแปลงในกระบวนการจัดซื้อ (Smart Procurement)
- ตลาดซอฟต์แวร์จัดซื้อคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 9.5 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2028 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 7.6% (อ้างอิงข้อมูลจาก procurementtactics.com)
- การใช้แพลตฟอร์ม e-Sourcing ที่ขับเคลื่อนด้วย AI คาดว่าจะเติบโตที่อัตรา 14% ต่อปีภายในปี 2025 (อ้างอิงข้อมูลจาก getfocalpoint.com)
เวลาที่วิศวกรใช้ในกระบวนการจัดซื้อ
76% ของวิศวกรใช้เวลามากกว่า 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อ เช่น การค้นหาซัพพลายเออร์ การจัดการใบเสนอราคา และการสั่งซื้อ ซึ่งอาจลดเวลาที่สามารถใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ (อ้างอิงข้อมูลจาก fictiv.com)
จะเห็นว่า ปี 2568 คือปีแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอย่างแท้จริง ทั้งในส่วนของการผลิตอัจฉริยะและการจัดซื้ออัจฉริยะ CADDi เชื่อมั่นว่าการผสานเทคโนโลยีเข้ากับกระบวนการที่ซับซ้อน เช่น การจัดซื้อและการบริหารซัพพลายเออร์ คือกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพการผลิตของไทย
ถึงเวลาแล้วที่องค์กรภาคการผลิตไทยจะต้องมองการจัดซื้อ (procurement) เป็น “ตัวเร่งการเปลี่ยนแปลง” ไม่ใช่เพียงศูนย์ต้นทุน การนำ Smart Procurement มาปรับใช้จะช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้น องค์กรไทยควรเริ่มต้นด้วยการประเมินกระบวนการจัดซื้อในปัจจุบัน ระบุจุดที่เป็นปัญหา และพิจารณาโซลูชันเทคโนโลยีที่เหมาะสม เช่น การเสนอราคาที่ขับเคลื่อนด้วย AI และการจัดการแบบวิศวกรรมดิจิทัล เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยไปสู่มาตรฐานใหม่และก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงในยุคอุตสาหกรรมข้อมูล
CADDi Drawer คือแพลตฟอร์ม Smart Manufacturing Drawing สำหรับอุตสาหกรรม 4.0 ที่มุ่งเน้นการจัดการแบบวาดทางวิศวกรรม (Drawing) และข้อมูลซัพพลายเชนอย่างเป็นระบบ เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลในภาคการผลิต
การนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ช่วยให้ CADDi Drawer สามารถรวบรวม วิเคราะห์ และดึงข้อมูลสำคัญจากแบบวาดได้อย่างแม่นยำ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดต้นทุน ปรับปรุงผลผลิต และสนับสนุนการตัดสินใจทางธุรกิจให้มีความแม่นยำยิ่งขึ้น
ในปี 2024 CADDi เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ภาคการผลิตเพียงรายเดียวที่ได้รับเลือกให้ติดอันดับใน Fast Company’s Most Innovative Companies 2024 และยังได้รับรางวัล Best Business Intelligence and Engineering Management Software จากเวที SaaS Awards 2024
ทำความรู้จัก CADDi Drawer เพิ่มเติม คลิกที่นี่
ข้อมูลอ้างอิง