ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญ ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) ได้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนหลักในการปฏิวัติอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจไทย AI ไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยีแห่งอนาคตอีกต่อไป แต่เป็นเครื่องมือที่จำเป็นในการก้าวสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) ที่เน้นการเชื่อมต่อข้อมูล ระบบอัตโนมัติ และการตัดสินใจที่ชาญฉลาด
การเปลี่ยนแปลงที่ AI นำมาสู่อุตสาหกรรมการผลิตนั้นครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการผลิตในโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) ไปจนถึงการจัดการข้อมูลที่สำคัญยิ่งอย่างแบบร่างทางเทคนิค (Technical Drawing) และกระบวนการออกใบเสนอราคา (Quotation) ซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น CADDi Drawer และ CADDi Quote กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการพลิกโฉมกระบวนการเหล่านี้ ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
บทความนี้จะเจาะลึกถึงผลกระทบของ AI ต่ออุตสาหกรรมการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของประเทศไทย สำรวจว่า AI ช่วยปฏิวัติการจัดการ Drawing และ Quotation อย่างไร ผ่านการทำงานของเทคโนโลยีอย่าง CADDi พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ โอกาส และทิศทางการนำ AI มาปรับใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในเวทีโลก
AI กับอุตสาหกรรม 4.0: ปฏิวัติกระบวนการจัดการ Drawing และใบเสนอราคา
Industry 4.0 คือแนวคิดของการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่ ที่มุ่งเน้นการผสานรวมเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับกระบวนการผลิตทางกายภาพ สร้างเป็นระบบ Cyber-Physical Systems (CPS) ที่เชื่อมต่อถึงกันผ่าน Internet of Things (IoT) และใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อการตัดสินใจที่ชาญฉลาด AI ถือเป็นเทคโนโลยีแกนหลักที่ทำให้แนวคิด Industry 4.0 เป็นจริงขึ้นมาได้ โดยทำหน้าที่เป็น “สมอง” ของโรงงานอัจฉริยะ ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล คาดการณ์แนวโน้ม และสั่งการระบบอัตโนมัติต่างๆ
ในบริบทของการจัดการข้อมูลทางวิศวกรรม AI ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานกับแบบร่างทางเทคนิคและกระบวนการเสนอราคาอย่างสิ้นเชิง ซอฟต์แวร์จัดการข้อมูลทางวิศวกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น CADDi Drawer และ CADDi Quote ได้นำเสนอข้อดีหลายประการที่สอดคล้องกับหลักการของ Industry 4.0
- การแปลงข้อมูลเป็นดิจิทัล (Digitization of Drawings): หนึ่งในความท้าทายสำคัญของ อุตสาหกรรม 4.0 และ Drawing คือการจัดการกับแบบร่างจำนวนมหาศาลที่อาจอยู่ในรูปแบบกระดาษหรือไฟล์ดิจิทัลที่กระจัดกระจาย AI ใน CADDi Drawer ใช้เทคโนโลยี Optical Character Recognition (OCR) ขั้นสูง ที่สามารถอ่านและดึงข้อมูลจากไฟล์ Drawing หลากหลายประเภท (PDF, JPEG, GIF, PNG, TIFF, แม้กระทั่งแบบร่างเขียนด้วยมือ) ได้อย่างแม่นยำ รวมถึงการอ่านข้อความ สัญลักษณ์เฉพาะทาง และขนาดต่างๆ ช่วยลดความเสี่ยงในการสูญหายของข้อมูลและทำให้ข้อมูลพร้อมใช้งานในรูปแบบดิจิทัล
- การประมวลผลใบเสนอราคาแบบอัตโนมัติ (Automated Quotation Processing): CADDi Quote ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลที่ดึงออกมาจาก Drawing โดยอัตโนมัติ เพื่อประเมินต้นทุนและสร้างใบเสนอราคาได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ลดขั้นตอนการทำงานด้วยมือที่ใช้เวลานานและอาจเกิดข้อผิดพลาด
- การเพิ่มประสิทธิภาพการประเมินต้นทุน (Cost Estimation Optimization): AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลต้นทุนในอดีตจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ เปรียบเทียบราคาชิ้นส่วนที่คล้ายคลึงกัน และระบุแนวโน้มราคา เพื่อช่วยให้การเสนอราคามีความแม่นยำและแข่งขันได้มากขึ้น
- การค้นหาซัพพลายเออร์ที่เหมาะสม (Supplier Matching): ระบบ AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลประสิทธิภาพของซัพพลายเออร์ในอดีต (ราคา คุณภาพ ระยะเวลาจัดส่ง) ที่เชื่อมโยงกับ Drawing แต่ละใบ เพื่อแนะนำหรือเลือกซัพพลายเออร์ที่ดีที่สุดสำหรับงานนั้นๆ โดยอัตโนมัติ
- การลดความผิดพลาดจากมนุษย์ (Error Reduction): กระบวนการทำงานแบบแมนนวลในการอ่าน Drawing หรือคำนวณราคาเสนอ มักเสี่ยงต่อความผิดพลาด การใช้ AI เข้ามาช่วยในกระบวนการเหล่านี้ ช่วยลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ได้อย่างมีนัยสำคัญ เพิ่มความน่าเชื่อถือและความแม่นยำของข้อมูล
การนำ AI มาใช้ในกระบวนการเหล่านี้ ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน แต่ยังเป็นการวางรากฐานสำคัญสำหรับการสร้างระบบการผลิตที่ชาญฉลาดและเชื่อมต่อถึงกันอย่างสมบูรณ์ตามแนวทางของ Industry 4.0
AI เปลี่ยนแปลงการจัดการ Drawing และ Quotation อย่างไร
AI ไม่ได้เพียงแค่ทำให้กระบวนการเดิมเร็วขึ้น แต่ยังเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดการ Drawing และ Quotation ในเชิงลึก ด้วยความสามารถที่เหนือกว่าระบบอัตโนมัติแบบเดิมๆ:
- การอ่านและวิเคราะห์ Drawing อัตโนมัติ (Automated Drawing Interpretation): โซลูชันอย่าง CADDi Drawer ใช้ AI ที่ฝึกฝนมาโดยเฉพาะสำหรับแบบวาดทางวิศวกรรม ทำให้สามารถ “อ่าน” และ “เข้าใจ” ไฟล์ Drawing หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น PDF หรือไฟล์ CAD สามารถตีความโครงสร้างที่ซับซ้อน สัญลักษณ์เฉพาะทาง และแยกแยะองค์ประกอบต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ ลดความจำเป็นในการพึ่งพามนุษย์ในการตีความข้อมูลเบื้องต้น
- การจับข้อมูลที่ซ่อนอยู่ใน Drawing (Hidden Data Extraction): AI สามารถวิเคราะห์และดึงข้อมูลสำคัญที่อาจซ่อนอยู่ในหมายเหตุ คำอธิบายประกอบ หรือข้อมูลตารางหัวข้อ (Title Block) เช่น ข้อกำหนดด้านวัสดุ (Material) ค่าความ Tolerance หรือกรรมวิธีการปรับปรุงผิวสัมผัส (Surface Treatment) ข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการประเมินต้นทุนและการวางแผนการผลิต แต่การดึงข้อมูลด้วยมืออาจใช้เวลานานและเสี่ยงต่อการตกหล่น
- การวิเคราะห์ต้นทุนและเวลาการผลิตที่ขับเคลื่อนด้วย AI (AI-powered Cost & Lead Time Analysis): ระบบอย่าง CADDi Quote ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลจาก Drawing ร่วมกับข้อมูลในอดีตจากฐานข้อมูลซัพพลายเชนขนาดใหญ่ เพื่อประเมินราคาต้นทุนและระยะเวลาในการผลิต (Lead Time) ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว โดยพิจารณาจากปัจจัยที่ซับซ้อน เช่น ความซับซ้อนของรูปทรง วัสดุ กระบวนการผลิตที่ต้องการ และข้อมูลราคาจากซัพพลายเออร์ต่างๆ
- การเชื่อมโยง Drawing กับระบบซัพพลายเชนอย่างชาญฉลาด (Smart Supply Chain Integration): AI ช่วยให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลที่ดึงออกมาจาก Drawing เข้ากับฐานข้อมูลซัพพลายเออร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถค้นหาและเปรียบเทียบซัพพลายเออร์ที่มีศักยภาพในการผลิตชิ้นส่วนตามข้อกำหนดได้อย่างรวดเร็ว โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ราคา คุณภาพ และประวัติการส่งมอบ
- การเพิ่มความโปร่งใสและสร้างมาตรฐาน (Transparency & Standardization): การใช้งานซอฟท์แวร์บนคลาวด์ที่ได้นำ AI เข้ามาประยุกต์ใช้ อย่าง CADDi ช่วยสร้างกระบวนการทำงานที่เป็นมาตรฐานตั้งแต่การรับ Drawing การวิเคราะห์ การประเมินราคา ไปจนถึงการเลือกซัพพลายเออร์ ทำให้กระบวนการทั้งหมดมีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ง่าย และลดการพึ่งพา “ความรู้เฉพาะบุคคล” (Tribal Knowledge)
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลให้กระบวนการจัดการ Drawing และ Quotation มีความรวดเร็ว แม่นยำ ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และมีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ทิศทางการพัฒนา AI ในการจัดการ Drawing และ Quotation ในไทย
ปัจจุบัน ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยกว่า 60 ประเทศได้ประกาศใช้แผนยุทธศาสตร์ AI ระดับชาติ ตามข้อมูลจาก OECD ในปี 2565 ประเทศไทยเองก็ได้จัดทำ “แผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติ เพื่อพัฒนาประเทศไทย พ.ศ. 2565 – 2570” ซึ่งร่างขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ตั้งแต่ปี 2562 โดยเฉพาะในช่วงปี 2567 – 2570 แผนดังกล่าวจะมุ่งเน้นส่งเสริม AI ในภาคอุตสาหกรรมการผลิต ผ่านการสนับสนุน Startup การปลดล็อคข้อบังคับเพื่อการทดลองใช้งาน และการสร้างสิทธิประโยชน์จูงใจ โดยตั้งเป้าให้เกิดการนำ AI ไปใช้งานในอุตสาหกรรมไม่น้อยกว่า 600 หน่วยงาน
แนวโน้มการใช้ AI ในอุตสาหกรรมการผลิตของไทยกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะมีการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ มากขึ้น ทั้งกระบวนการผลิตอัตโนมัติ การควบคุมคุณภาพ การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ และการเพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทาน รายงานจาก Deloitte คาดการณ์ว่าภายในปี 2568 ผู้ผลิตกว่าครึ่งจะนำ AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินงาน แม้ว่าอัตราการปรับใช้อาจแตกต่างกันไปตามขนาดและประเภทของกิจการ แต่ AI ก็ได้รับความสนใจอย่างสูงเนื่องจากความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลเรียลไทม์ เพิ่มประสิทธิภาพ และการคาดการณ์ที่แม่นยำ นอกจากนี้ AI ยังสามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีใหม่อย่าง IoT และหุ่นยนต์เพื่อยกระดับกระบวนการผลิตให้ดียิ่งขึ้น นับเป็นเทคโนโลยีพลิกโฉมที่คาดว่าจะมีการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลกและในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระบวนการจัดการแบบร่างทางเทคนิค (Drawing) และการเสนอราคา (Quotation) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ การผสาน AI เข้ากับแนวคิด อุตสาหกรรม 4.0 และ Drawing ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถเปลี่ยนผ่านจากกระบวนการทำงานแบบดั้งเดิมที่ใช้แรงงานคนและเสี่ยงต่อข้อผิดพลาด ไปสู่ระบบอัตโนมัติที่ชาญฉลาด ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และมีประสิทธิภาพสูง
โซลูชันอย่าง CADDi Drawer และ CADDi Quote แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ AI ในการแปลงข้อมูล Drawing ให้เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถค้นหา วิเคราะห์ และเชื่อมโยงกับข้อมูลอื่นๆ ในห่วงโซ่อุปทานได้อย่างไร้รอยต่อ ช่วยลดเวลาในการค้นหาข้อมูล ลดข้อผิดพลาดในการตีความและการคำนวณ เพิ่มความแม่นยำในการประเมินต้นทุนและการเลือกซัพพลายเออร์ และสร้างมาตรฐานและความโปร่งใสให้กับกระบวนการทำงาน
สำหรับภาคอุตสาหกรรมไทย การปรับตัวและนำเทคโนโลยี AI มาใช้ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อรักษาและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การลงทุนในเทคโนโลยี การพัฒนาทักษะบุคลากร และการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานให้สอดรับกับยุคดิจิทัล โดยใช้ประโยชน์จากเครื่องมืออย่าง CADDi จะเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพ ลดต้นทุน และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการผลิตไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืนและแข่งขันได้ในเวทีโลก การพัฒนา AI จะยังคงดำเนินต่อไป และจะมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในการบริหารจัดการข้อมูลทางวิศวกรรม กลายเป็นพื้นฐานสำคัญในการแข่งขันด้านต้นทุน รวมถึงเวลา
CADDi Drawer คือแพลตฟอร์ม Smart Manufacturing Drawing สำหรับอุตสาหกรรม 4.0 ที่มุ่งเน้นการจัดการแบบวาดทางวิศวกรรม (Drawing) และข้อมูลซัพพลายเชนอย่างเป็นระบบ เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลในภาคการผลิต
การนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ช่วยให้ CADDi Drawer สามารถรวบรวม วิเคราะห์ และดึงข้อมูลสำคัญจากแบบวาดได้อย่างแม่นยำ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดต้นทุน ปรับปรุงผลผลิต และสนับสนุนการตัดสินใจทางธุรกิจให้มีความแม่นยำยิ่งขึ้น
ในปี 2024 CADDi เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ภาคการผลิตเพียงรายเดียวที่ได้รับเลือกให้ติดอันดับใน Fast Company’s Most Innovative Companies 2024 และยังได้รับรางวัล Best Business Intelligence and Engineering Management Software จากเวที SaaS Awards 2024
ทำความรู้จัก CADDi Drawer เพิ่มเติม คลิกที่นี่
ข้อมูลอ้างอิง
- https://www.forbes.com/sites/sap/2025/02/20/how-ai-is-changing-the-game-in-manufacturing/
- https://quickerpthailand.com/blog-ai-in-four-industries-worth-watching-in-next-year/
- https://www.depa.or.th/th/article-view/ai-for-industrial-sector
- https://us.caddi.com/resources/insights/unstructured-data-utilization
- https://us.caddi.com/resources/insights/cost-modeling-with-drawing-data